banner

จากการวิจัยล่าสุดจาก University College London พบว่าบุหรี่ไฟฟ้าช่วยผู้สูบบุหรี่ชาวอังกฤษอย่างน้อย 50,000 คนให้เลิกสูบบุหรี่ในปี 2560 เจมี่ บราวน์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน ชี้ให้เห็นว่าสหราชอาณาจักรได้พบความสมดุลที่สมเหตุสมผลระหว่างการควบคุมบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์และการส่งเสริมการขาย

 

1

การศึกษาซึ่งตีพิมพ์เมื่อเร็วๆ นี้ในวารสารวิชาการ ADDICTION ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ วิเคราะห์ผลกระทบของบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ต่อกิจกรรมการเลิกบุหรี่ในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 2549 ถึง 2560 โดยอิงจากการสำรวจติดตามผลผู้สูบบุหรี่ 50,498 รายผลการศึกษาพบว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 โดยมีการใช้ .เพิ่มขึ้นบุหรี่ไฟฟ้าอัตราความสำเร็จของการเลิกบุหรี่เพิ่มขึ้นทุกปีในปี 2015 เมื่อการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสหราชอาณาจักรเริ่มลดลง อัตราความสำเร็จในการเลิกบุหรี่ก็เริ่มลดลงเช่นกันในปี 2560 ผู้สูบบุหรี่ระหว่าง 50,700 ถึง 69,930 คนได้รับความช่วยเหลือจากบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์เพื่อหยุดสูบบุหรี่.

 

สหราชอาณาจักรต้องการที่จะเป็นสังคมปลอดบุหรี่ภายในปี 2030 และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและนักการเมืองต้องการให้บุหรี่อิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นDeborah Robson นักวิจัยอาวุโสด้านดุษฏีบัณฑิตด้านการเสพติดยาสูบที่ King's College London กล่าวว่า "สหราชอาณาจักรมีประวัติอันยาวนานในการใช้วิธีลดอันตรายเพื่อปรับปรุงสุขภาพของประชาชนจากประสบการณ์การวิจัยหลายทศวรรษ เราพบว่านิโคตินไม่ใช่สารที่อันตรายที่สุดในยาสูบ ก๊าซพิษและอนุภาคน้ำมันดินนับล้านที่ยาสูบเผาไหม้ฆ่าผู้สูบบุหรี่จริงๆ”

ไม่นานมานี้ สื่ออเมริกันชื่อดังอย่าง VICE ได้ตีพิมพ์คำวิจารณ์ชี้ว่าสหราชอาณาจักรได้พัฒนาบุหรี่ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพยาสูบวิธีการควบคุมผ่านระบบการกำกับดูแลบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ทีละขั้นตอน


เวลาที่โพสต์: 05-05-2565